สาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ระเบิดบ่อย ๆ มีดังนี้:
1. แรงดันลมยางไม่เหมาะสม
- ลมยางต่ำเกินไป: ยางต้องรับน้ำหนักมากเกินไป ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมจนยางระเบิด
- ลมยางสูงเกินไป: ยางมีความตึงตัวสูง เมื่อกระแทกหลุมหรือสิ่งกีดขวางอาจแตกหรือระเบิดได้
2. การบรรทุกน้ำหนักเกิน
- น้ำหนักที่มากเกินค่ากำหนดของยางจะทำให้โครงสร้างยางเสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิด
3. สภาพถนนไม่ดี
- การขับบนถนนที่มีหลุมบ่อ ขอบทาง หรือสิ่งกีดขวางบ่อย ๆ จะทำให้ยางเสียหายจากการกระแทกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิด
4. อุณหภูมิสูงหรือความร้อนสะสม
- ยางรถที่ถูกใช้งานในสภาพอากาศร้อนจัด หรือขับระยะไกลโดยไม่มีการพัก ยางอาจเกิดความร้อนสะสมจนโครงสร้างภายในเสียหาย
5. การเสื่อมสภาพของยาง
- ยางที่มีอายุการใช้งานนานเกินไป หรือเสื่อมสภาพจากการแตกลายงา โครงสร้างภายในจะอ่อนแอลงและระเบิดได้ง่าย
6. การใช้งานยางผิดประเภท
- การใช้ยางที่ไม่เหมาะกับสภาพถนน เช่น ใช้ยางสำหรับถนนเรียบในการขับลุยถนนขรุขระ อาจทำให้โครงสร้างยางเสียหายเร็ว
7. การโดนวัตถุแหลมคม
- ยางที่ถูกตะปู เศษแก้ว หรือวัตถุแหลมคมบาดทะลุ อาจทำให้ยางเกิดการรั่วหรือระเบิดกะทันหัน
8. ปัญหาจากล้อหรือระบบช่วงล่าง
- ล้อที่ไม่ได้สมดุล หรือระบบช่วงล่างที่ชำรุด อาจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแรงดันผิดปกติกับยางจนเกิดความเสียหาย
9. การขับรถด้วยความเร็วสูง
- เมื่อขับรถเร็ว ยางต้องรับแรงเสียดทานและความร้อนสูง หากยางไม่ได้คุณภาพหรือมีปัญหา จะมีโอกาสระเบิดสูง
วิธีป้องกัน
- ตรวจสอบลมยางและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกิน
- หลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีสิ่งกีดขวางหรือหลุมบ่อ
- พักรถเมื่อขับระยะไกลเพื่อลดความร้อนสะสมในยาง
- เปลี่ยนยางเมื่อถึงอายุการใช้งาน (ปกติ 5-6 ปี)
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ThorAuto ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน